ใครอีก!? กันจอมพลัง แฉ โฆษกพรรคการเมืองหนึ่ง ส่งภาพอวัยวะเพศให้ผู้หญิง

ใครอีก!? กันจอมพลัง แฉ โฆษกพรรคการเมืองหนึ่ง ส่งภาพอวัยวะเพศให้ผู้หญิง

กันจอมพลัง แฉ โฆษกพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ส่งภาพอวัยวะเพศให้ผู้หญิง เผยเป็นนักการเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนไทย และยังได้มีการพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายด้วย วันนี้ 31 พ.ค. 65 มีรายงานว่า กัน จอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ เศรษฐีหนุ่มเจ้าของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจอมหลัง ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่ามีโฆษกพรรคการเมืองแห่งหนค่งส่งรูปอวัยวะเพศให้กับผู้หญิง และยังพูดจาข่มขู่คุกคามผู้เสียหายด้วย

โดยข้อความเฟซบุ๊กของกัน จอมพลัง ระบุว่า

 “ผมได้หลักฐาน โฆษกพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง เป็นที่รู้จักของคนไทย ส่งภาพอวัยวะเพศ ให้ผู้หญิง แถมแอบค้นทะเบียนทะเบียนราษฎร์ ส่งหาผู้เสียหายพูดจาข่มขู่คุกคาม อ้างรู้จักอธิบดี ผมจะช่วยผู้หญิงคนนี้แล้วเจอกัน”

ซึ่งภายในคอมเม้นต์ของโพสต์ดังกล่าวนั้น กัน จอมพลัง ยังยืนกรานด้วยว่า ไม่มีเคลียร์หลังไมค์ แล้วก็ไม่รับเคลียร์ด้วยครับ ไม่ต้องให้ใครทักมาครับ” และ “ประชาชนเค้าจะเอาอะไรสู้ พวกคุณมีอำนาจมีคอนเนคชันในมือแต่ใช้รังแกชาวบ้านกันอย่างนี้หรือ ? เจ้าหน้าที่ๆ ค้นทะเบียนราษฎร์ ให้กับโฆษกพรรคการเมืองคนนี้ จนทำให้เกิดการเผยแพร่ ก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน”

เพราะนี่คือ ตัวอย่างของการติดตั้งป้ายหาเสียงของนายชัชชาติ ผู้สมัครผู้ว่าฯ เบอร์ 8 ที่ไม่เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ที่ระบุห้ามปิดป้ายหาเสียงศาลาที่พักผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบภายในระยะ 10 ม. ห้ามปิดบริเวณสะพานลอยเดินข้าม, ห้ามปิดบริเวณป้ายจราจรและสัญญาณไฟจราจร และปิดป้ายแล้วต้องมั่นคงแข็งแรง ฯลฯ

การปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่ กกต.กำหนดเล็กๆน้อย ๆ แค่นี้ยังไม่สามารถกำกับ ดูแล ทีมงานที่มีไม่กี่คนให้ปิดป้ายให้เป็นไปตามระเบียบได้ ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่มีพื้นที่กว่า 1,569 ตร.กม. เมื่อที่มีประชากรจริงและแฝงกว่า 10,820,921 คน. มีข้าราชการสามัญถึง 22,966 คน. ลูกจ้างประจำ 32,877 คน. ลูกจ้างชั่วคราว 16,511 คน. จะบริหารจัดการ ควบคุม ดูแล และบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายได้อย่างไร… ตอบมาซิ… ตอบซิ และยังมีเรื่องๆอื่นๆที่ไม่เป็นไปประโยชน์ต่อคนในสังคมเป็นอย่างมาก จึงอยากเชิญชวนบุคคลทีไม่เห็นด้วยเข้าร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอนออกจากการเป็น เลขาธิการ และยกเลิก สมาคมดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติ และยังขัดขวางความเจริญก้าวหน้าต่อบ้านเมือง”

หลังจากที่แคมเปญนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีชาวเน็ตจำนวนมากมาร่วมลงชื่อ จากการตรวจสอบของ Thaiger ล่าสุด พบมีผู้ลงชื่อถอดถอนศรีสุวรรณ จรรยา ทะลุ 2.5 หมื่นคนแล้ว

‘ธนกร’ ยืนยันไม่พบผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทย วอน ปชช. มั่นใจใน สธ.

โฆษกสำนักนายกยืนยันว่าในขณะนี้ไม่ พบผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทย วอนประชาชนให้มั่นใจในระบบสาธารณสุขไทย ด้านนายกฯสั่งคุมเข้ม นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำขอความมั่นใจให้ชาวไทยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย โดยในส่วนของผู้ป่วย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้มาต่อเครื่องในไทย 2 ชั่วโมง บินมาจากประเทศยุโรป เพื่อไปออสเตรเลียเมื่อเดินทางถึงประเทศปลายทางแล้วจึงพบว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ระหว่างต่อเครื่องผู้ป่วยรายนี้ยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิดยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ยังไม่พบว่ามีอาการ และจะติดตามให้ครบ 21 วัน

ในส่วนของผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานรที่พบในประเทศไทย จำนวน 5 รายนั้น ทั้ง 3 รายแรกชาวไอร์แลนด์ ที่บินตรงไปที่ จ.ภูเก็ต และอีก 2 รายที่ยิมเดียวกัน จ.ภูเก็ต จากผลตรวจ ยืนยันตรงกันว่าไม่ใช่ฝีดาษวานร เป็นผู้ป่วยโรคเริม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบาย เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงายที่เกี่ยวข้องเคร่งครัด รัดกุมในการทำงานเพื่อปกป้องประชาชนไทยให้ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชนร่วมกันสอดส่องดูแลโดยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด “นิยามผู้ป่วยสงสัย” ดังนี้

1.มีไข้มากกว่า 38 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดหลัง หรือต่อมน้ำเหลืองโต ไม่ว่าจะที่คอ ศอก ขาหนีบ

2.มีผื่นตามลำตัว ใบหน้า แขนขา ลักษณะเริ่มจากผื่น ตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง และตุ่มตกสะเก็ด

ดังนั้น แม้จะไม่มีไข้ แต่มีผื่นเหล่านี้ ก็นับเข้านิยาม โดยทั้งหมดนี้จะร่วมกับประวัติเชื่อมโยงระบาดวิทยา ภายใน 21 วัน หรือก่อนมีอาการ คือ

1.มาจากหรืออาศัยในประเทศที่รายงานการระบาดฝีดาษลิง เช่น แอฟริกา แคนาดา สเปน โปรตุเกส และอังกฤษ

2. ร่วมกิจกรรมในงานที่พบผู้ป่วยฝีดาษ หรือมีอาชีพสัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ และ

3.สัมผัสใกล้ชิดสัตว์ป่า

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดให้ โรคฝีดาษลิงในไทยยังไม่ใช่โรคติดต่ออันตราย ยังเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังเหมือนโรคไข้เลือดออก มาลาเรีย อีสุกอีใส อหิวาตกโรค จึงยังไม่มีการเริ่มกักตัวจนกว่าจะเข้าเกณฑ์เป็นผู้ป่วยก่อน ซึ่งกรมควบคุมโรคเตรียมทีมสอบสวนโรคทุกจังหวัด หากพบผู้ป่วยเข้ามาต้องสอบสวนให้ทันภายใน 24 ชั่วโมงแรก รวมถึงติดตามเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และวัคซีนด้วย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป