รพ.ธรรมศาสตร์ แจงโต้ กต. ปม แผนนำวัคซีนโมเดอร์นาบริจาคไปแบ่งขาย

รพ.ธรรมศาสตร์ แจงโต้ กต. ปม แผนนำวัคซีนโมเดอร์นาบริจาคไปแบ่งขาย

รพ.ธรรมศาสตร์ ร่ายยาวชี้แจง โต้กระทรวงต่างประเทศ กรณียุติการ นำเข้าโมเดอร์นา จากเอกชนโปแลนด์ เรื่องนำวัคซีน 5แสนโดสจาก 1.5 ล้านโดสไปขาย เผยไม่เคยได้ยินเรื่องกระทบความสัมพันธ์เพจเฟซบุ๊กของ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงข้อโต้แย้งจากกระทรวงการต่างประเทศเรื่องนำวัคซีนโมเดอร์นาบริจาคจากโปแลนด์ไปแบ่งขาย ระบุว่า วันที่ 149 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิตและวันที่ 130 ของศูนย์ธรรมศาสตร์ Home Isolation

วันนี้มารายงานเพิ่มเติม นอกกำหนดการที่จะมาทุกวันจันทร์ 

เราไม่ได้มาแจ้งข่าวเรื่องโควิด เพราะสถานการณ์ยังทรงตัวไม่ต่างจากเมื่อวานนี้ ทั้งสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ใน รพ.ธรรมศาสตร์ แต่มีประเด็นที่เพิ่มเติมจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ เรื่องการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ ที่เราแจ้งไปแล้วเมื่อวานว่า “จบไปแล้ว” โดยไม่มีการส่งมอบวัคซีนบริจาคใดๆ มายังประเทศไทย เมื่อธรรมศาสตร์ไม่สามารถมีหนังสือจากทางการไทยรับรองว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบให้ธรรมศาตร์รับบริจาคโมเดอร์นา จำนวน 1,500,000โดสจากหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์ได้

วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ ต่อความให้ยาวขึ้นอีก ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า เหตุผลที่ไม่ออกหนังสือรับรองให้ธรรมศาสตร์นั้น มีสองประการ คือหนึ่ง ไม่มีความยินยอมจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในการที่พวกเราจะไปขอรับบริจาคโมเดอร์นามาใช้ในประเทศไทย ประการหนึ่ง

อีกประการหนึ่ง กต. แถลงว่า ได้ทราบว่าในจำนวนวัคซีน 1.5 ล้านโดสที่จะได้รับบริจาคมานั้น ธรรมศาสตร์จะนำมาฉีดให้ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพียง 500,000 โดส ส่วนอีกหนึ่งล้านโดสจะให้เอกชนที่เป็นคู่สัญญากับมธ. นำไปจำหน่ายโดยเรียกเก็บเงิน กต.เกรงว่าจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศ และขัดเจตนาของทางโปแลนด์และประเทศไทยจะเสียชื่อเสียง จึงไม่ยอมออกจดหมายรับรองการขอรับบริจาคให้แก่ มธ.

ข้อสังเกตเบื้องต้นของพวกเราก็คือ กต.ไม่เคยแจ้งเหตุผลข้อหลังนี้ให้พวกเราทราบมาก่อนเลย ทั้งด้วยวาจา ผ่านตัวแทนที่ได้รับมอบหมายให้ดีลกับ มธ. และไม่เคยสอบถามรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับ ‘การค้าวัคซีน’ นี้ มายังมธ.เลย แม้ในจดหมายที่เป็นทางการที่ ทาง กต.ตอบมายังอธิการบดี มธ. ก็ไม่เคยแจ้งพวกเรา ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐด้วยกันว่า เกรงจะมีปัญหาเรื่องนี้ (เพราะหากแจ้งเช่นนั้น มธ. คงจะได้เข้าปรึกษาหารือกับ กต. และหาแนวทางอื่นในการดำเนินการร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ทันท่วงที) คำอธิบายเหตุผลเรื่องนี้ เพิ่งมาปรากฎขึ้นในวันที่ 2 พ.ย. วันนี้เอง

ต่อเหตุผลทั้งสองข้อที่ กต. แจ้งว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถรับรองการรับบริจาคให้แก่ธรรมศาสตร์ ข้อแรกนั้น เรายืนยันว่า ได้แจ้งแก่ผู้แทนที่กต. มอบให้เป็นผู้ประสานงานว่า พวกเรากำลังดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ในการที่จะให้ความเห็นชอบที่โปแลนด์จะบริจาคModerna ให้แก่มธ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการคู่ขนานไปกับการขอให้ทาง กต. ทำจดหมายแจ้งไปยังโปแลนด์อยู่แล้ว การให้ความยินยอมนี้ จะเกิดง่ายขึ้นด้วยซำ้ หากมีจดหมายจาก กต.รับรองสถานะของธรรมศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย

ธรรมศาสตร์ชี้แจงเรื่องนำวัคซีนโมเดอร์นาบางส่วนไปแบ่งขาย

ในประเด็นที่สอง เรื่องการแบ่งวัคซีนอีกหนึ่งล้านโดสให้เอกชนคู่สัญญานำไปจำหน่าย นั้น เราได้แจ้งแก่ผู้แทน กต.ตั้งแต่ต้นว่า การบริจาคครั้งนี้ เป็นการบริจาควัคซีนจากคลังสำรองในโปแลนด์ ผู้รับบริจาคจะต้องส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบสภาพ สถานะ และลอตการผลิต ตลอดจนจัดเตรียม dossier ในการจัดส่งและตรวจสอบ จัดการในเรื่อง logisticในการนำวัคซีนไปยังสนามบิน จัดการในเรื่องการขนส่ง การประกันภัยวัคซีน พิธีการศุลกากร และการบริหารจัดการคลังเก็บวัดซีนในประเทศ ตลอดทั้งการประกันภัยผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องเหล่านี้คิดเป็นเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท และในกรณีการรับบริจาคแอสตร้าเซนเนก้า จากหลายประเทศ หลายครั้ง รัฐบาลไทยก็เคยเป็นผู้รับผิดชอบโดยใช้เงินงบประมาณของรัฐจ่ายไปทั้งหมด

ในกรณีของธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่มีงบประมาณแผ่นดินให้จ่ายได้ดังกรณีที่รัฐรับบริจาค เราจึงได้ขอให้ภาคเอกชนคู่สัญญาของเรา เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ไป และตกลงว่าจะให้นำวัคซีนModerna หนึ่งล้านโดส ออกไปกระจายฉีดให้ประชาชนทั่วไป โดยคิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ประกันภัย และโลจิสติคที่เกี่ยวข้องได้ ตามราคาต้นทุนที่ได้จ่ายไปจริง (at cost)โดยธรรมศาสตร์แจ้งผู้แทน กต. ว่า เราจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว แจกแจงรายการต่างๆพร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่า “ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งวัคซีนบริจาค” ลอตนี้ มีจำนวนเท่าใด และจะขอให้ผู้ฉีดวัคซีนในส่วนหนึ่งล้านโดสนั้น ช่วยรับผิดชอบร่วมกันด้วย

ประเด็นที่สำคัญคือ เมื่อได้คำนวนค่าใช้จ่ายแล้ว เราได้เจรจาตกลงกับเอกชนคู่สัญญาว่า เมื่อหักห้าแสนโดสที่จะมอบให้ธรรมศาสตร์และโรงพยาบาลเครือข่ายไปฉีดให้ผู้ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์โดยไม่เรียกเก็บค่าตอบแทนออกแล้ว วัคซีนอีกหนึ่งล้านโดสที่เหลือ ตกลงจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่ง โลจิสติค และประกันภัย รวมเป็นจำนวนโดสละ 400 บาท เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปโดยไม่มีงบประมาณภาครัฐรองรับ ซึ่งก็ตำ่กว่าราคา 1.100 บาทที่เป็นราคาต้นทุนวัคซีนที่หน่วยงานภาครัฐที่นำวัคซีนชนิดนี้เข้ามาในประเทศ เรียกเก็บจากสถานพยาบาลต่างๆอยู่เป็นอย่างมาก เราได้แจ้งหลักเกณฑ์และจำนวนค่าใช้จ่ายที่จะขอเรียกเก็บนี้ให้ผู้แทน กต. ทราบด้วยแล้วเช่นกัน

ข้อที่พวกเรารู้สึกประหลาดใจมาก คือเหตุผลข้อที่สองของ กต. ที่เพิ่งแถลงขึ้นในวันนี้ เรื่องเกรงจะมีการนำวัคซีนไปจำหน่าย จะทำให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเหตุผลและความกังวลที่ไม่เคยแจ้งหรือปรึกษากันก่อนเลย เพราะหากเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขหลักในการออกหนังสือรับรองไปยังโปแลนด์ มธ. อาจจะหาทางขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หรือมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณและการเงิน ให้ช่วยรับภาระในค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ซึ่งมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในเรื่องวัคซีนที่ประเทศไทยได้จ่ายไปหลายหมื่นล้านบาทแล้วในปัจจุบัน เพื่อออกใช้แทนเอกชนไป เพื่อให้ได้วัคซีนที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพ ลอตนี้ นำเข้ามาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางแล้วก็ได้

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป